ข้อมูลและประวัติโดยสังเขป |
|
|
|
|
|
ไดเฮ็น คอร์ปเปอร์เรชั่น ได้เริ่มต้นดำเนินธุรกิจหม้อแปลงในปี 1919 โดยริเริ่มจากการผลิตสินค้าพื้นฐานสำหรับงานอุตสาหกรรมการผลิต จากกนั้นองค์กรได้ทำการพัฒฐนาและเพิ่มจำนวนสินค้าให้หลากหลายและครอบคลุมมากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการตอบสนองกับความต้องการของสังคมที่เพิ่มขึ้นอยู่เสมอ สินค้าของบริษัทไดเฮ็นจะถูกผสมผสานกันระหว่างเครื่องเชื่อมคุณภาพสูงและเทคโนโลยีด้านอิเล็กทรอนิค ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ต่อยอดมากจากการผลิตหม้อแปลง เช่นเดียวกันกับอุตสากรรมหุ่นยนต์และอะไหล่ ที่เราดำเนินการอยู่ในขณะนี้ |
|
ปัจจุบัน ไดเฮ็นกรุ๊ป แบ่งออกเป็น 32 บริษัททั่วโลก ซึ่งทั้งหมดได้ทุ่มเทในการทำงานเพื่อให้เราได้ยืนอย่างเข้มแข็งบนเวทีสากล ในฐานะแบรนด์ชั้นนำที่คุณจะไม่ผิดหวัง |
|
|
ประวัติความเป็นมาของ โอทีซี ไดเฮ็น เอเชีย |
|
ปี พ.ศ 2532 บริษัท โอทีซี ไดเฮ็น เอเชีย จำกัด ถือกำเนิดขึ้นในฐานะผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จแห่งวงการอุตสาหกรรม ดำเนินธุรกิจด้าน Welding & Mechatronic โดยมีฐานการผลิตอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมนวนคร, 1 สำนักงานขายในกรุงเทพ และศูนย์บริการด้านเทคนิค 3 แห่งในภาคตะวันออก สินค้าคุณภาพจาก โอทีซี ไดเฮ็น เอเชีย ถูกส่งออกขายทั่วโลก อาทิเช่น อเมริกา ยุโรป อาเซียน และด้วยประสบการณ์กว่า 20 ปี ที่เราโลดแล่นอยู่ในวงการอุตสาหกรรม รวมถึงการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง ก่อให้เกิดความเชื่อมั่นในคุณภาพจากผู้ใช้ อันนำมาซึ่งความภาคภูมิใจของพนักงานทุกคน |
|
ภายใต้หลักการ Reliability & Creativity เราจึงมุ่งมั่นในการพัฒนาวงการอุตสาหกรรม ทั้งกระบวนการผลิต และกำลังการผลิตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อรองรับความต้องการในการใช้งานผลิตภัณฑ์โลหะที่เพิ่มสูงขึ้นในทั้งปัจจุบันและอนาคต เราจึงเป็นที่แรกของโลก ที่ได้คิดค้นนวตกรรมใหม่ Synchromotion ระบบประสานงาน เพื่อควบคุมแขนกลให้ทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ |
|
นอกจากนั้น คุณภาพสินค้าคือสิ่งที่เรายึดมั่นสูงสุด เราจึงมีกระบวนการผลิตที่เบ็ดเสร็จ ตั้งแต่การเลือกสรรวัตถุดิบ จนกระทั้งเกิดเป็นสินค้า โดยตั้งอยู่บนพื้นฐาน QCD [Q = Quality, C = Lower Cost, D = Delivery on time] โดยที่สินค้าทุกชิ้นของโอทีซี เกิดจากกระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพ พิถีพิถัน และให้ความสำคัญในการตรวจสอบคุณภาพ อีกทั้งไม่ลืมที่จะใส่ใจสิ่งแวดล้อม จึงเรียกได้ว่าเป็นกระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง อันนำมาซึ่งรางวัลมาตรฐานมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ISO14001:2004, ISO9001:2008 ซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถรับประกันคุณภาพและความสำเร็จของเราได้เป็นอย่างดี |
|